วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 16


สัปดาห์นี้ไม่มีการเรียนการสอน แต่อาจารย์ได้แจกข้อสอบไปทำ โดยให้นักศึกษาส่งวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ โดยข้อตกลงในการทำข้อสอบคือ ต้องค้นคว้าหาความรู้จากงานวิจัย บทความ และเอกสารประกอบการเรียนการสอนได้

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 15


การดูแลให้ความช่วยเหลือ

- สร้างความภาคภูมิใจในตนเองให้เกิดกับเด็ก
- มองหาจุดดี จุดแข็งของเด็ก และให้คำชมอยู่เสมอ
- ให้การเสริมแรงทางบวก
- รู้จักลักษณะของเด็กที่เป็นสัญญาณเตือน
- วางแผนการจัดทำแฟ้มข้อมูลเกี่้ยวกับการเรียนรู้ของเด็ก
- สังเกตติดตามความสามารถ และการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนของเด็ก 
- IEP

การรักษาด้วยยา


- Ritalin
- Dexedrine
- Cylert

หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ


- สำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ(สศศ)
- โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์
- ศูนย์การศึกษาพิเศษ(Early Intervention . EI)
- โรงเรียนเฉพาะความพิการ
- สถาบันราชานุกูล

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 14


การดูแลรักษาและส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

ส่งเสริมความเข้มแข็งครอบครัว (Family Empowerment)
-ครอบครัวมีบทบาทสำคัญที่สุดในการดูแลช่วยเหลือเด็กออทิสติก
ส่งเสริมความสามารถเด็ก (Ability Enhancement)
การส่งเสริมโอกาสให้เด็กได้เล่นของเล่นที่หลากลาย
-ทำกิจกรรมที่หลากหลาย
ส่งเสริมพัฒนาการ (Developmental Intervention)
-ให้เด็กมีพัฒนาการเป็นไปตามวัย
-ส่งเสริมพัฒนาการด้านอื่นที่ล่าช้าควบคู่กับการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร
 สังคม และการปรับพฤติกรรม
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Behavior Modification)
-เพิ่มพฤติกรรมที่เหมาะสมและลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
-การให้แรงเสริม
แก้ไขการพูด (speech Therapy)
-โดยเฉพาะในรายที่มีพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อความหมายล่าช้า
-ถ้าเด็กพูดได้เร็วโอกาสที่จะมีพัฒนาการทางภาษาใกล้เคียงปกติเพิ่มมากขึ้น
-ลดการการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม
-ช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวที่เกิดขึ้นจากการไม่สามารถสื่อสารความต้องการได้
-การสื่อสารความหมายทดแทน (AAC)
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา (Educational Rehabilitation)
-เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อสาร และทักษะทางความคิด
-แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
-โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน
ฝึกทักษะสังคม (Social Skills Training)
-ทักษะในชีวิตประจำวัน และฝึกฝนทักษะทางสังคม
-ให้เด็กสามารถทำด้วยตนเองเต็มความสามารถโดยต้องการความช่วยเหลือน้อยที่สุด
การรักษาด้วยยา (Pharmacotherapy)
-Methylphenidate (Ritalin) ช่วยลดอาการไม่นิ่ง /ซน/หุนหันพลันแล่น/ขาดสมาธิ
-Risperidone/Haloperidol ช่วยลดอาการไม่นิ่ง หงุดหงิด หุนหันพลันแล่น 
พฤติกรรมซ้ำ ๆ พฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง
-ยาในกลุ่ม Anticonvulsant (ยากันชักใช้ได้ผลในรายที่มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
การแพทย์เสริมและทางเลือก (Complementary and Alternative Medicine)
1. ศิลปะบำบัด (Art Therapy)       
2. ดนตรีบำบัด (Music Therapy)  
3. ละครบำบัด (Drama Therapy)  
4. การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)
5. การฝังเข็ม (Acupuncture)         
6. เครื่องเอชอีจี (HEG; Hemoencephalogram)
พ่อ แม่ (Parent)
-“ลูกต้องพัฒนาได้
-“เรารักลูกของเราไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร
-“ถ้าเราไม่รัก ใครจะรัก
-“หยุดไม่ได้
-ดูแลจิตใจและร่างกายของตนเองให้เข้มแข็ง
-ไม่กล่าวโทษตนเองหรือคู่สมรส
-หันหน้าปรึกษากันในครอบครัว

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 13


** สอบกลางภาค

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 12


พัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
          พัฒนาการ  หมายถึง  การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่ และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ                                 
 พัฒนาการปกติ แบ่งออกเป็น 4 ด้าน คือ- พัฒนาการด้านร่างกาย- พัฒนาการด้านสติปัญญา- พัฒนาการด้านจิตใจ-อารมณ์- พัฒนาการด้านสังคม        เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ   หมายถึง  เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน ที่สามารถทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก           ปัจจัยทางด้านชีวภาพ เกี่ยวข้องกับลักษณะทางพันธุกรรมหรือชุดหน่วยของยีนที่เด็กได้รับสืบทอดมาจากบิดามารดา          ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด การติดเชื้อ สารพิษ สภาวะทางโภชนาการและการเจ็บป่วยของมารดาส่งผลต่อพัฒนาการของตัวอ่อนในครรภ์          ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด  การเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะคลอด เช่น ภาวะขาดออกซิเจนในขณะคลอด          ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด สภาวะหลังคลอด ปัจจัยด้านระบบประสาท และสภาพแวดล้อมส่งผลร่วมกันต่อพัฒนาการของเด็ก เด็กที่ไม่มีบิดามารดา หรือเด็กที่ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่  อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แออัด ยากจน เด็กถูกทอดทิ้ง-ล่วงละเมิด ปัจจัยด้านการศึกษา  เชาวน์ปัญญา และความสามารถของมารดา ในการจัดสภาพการเรียนรู้ของเด็ก
สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ1. โรคพันธุกรรม2. โรคของระบบประสาท3. การติดเชื้อ4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด6. สารเคมี7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งการขาดสารอาหาร
อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ     มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน ได้แก่ กล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา  การใช้ภาษา  ความเข้าใจภาษา การช่วยเหลือตัวเองและสังคม นอกจากนี้อาจพบความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อร่วมด้วย เช่น  ปฏิกิริยาสะท้อน (primitive reflex) ยังคงอยู่ไม่หายไปแม้จะถึงช่วงอายุที่ควรจะหายไป กล้ามเนื้ออ่อนนิ่มหรือเกร็ง อาจพบความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปัญหาการได้ยิน ปัญหาการมองเห็น
แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ1. การซักประวัติ กล่าวโดยสรุปเมื่อซักประวัติแล้วจะทำให้สามารถบอกได้ว่า1. ลักษณะพัฒนาการล่าช้าดังกล่าวเป็นแบบคงที่ (static) หรือถดถอย (progressive encephalopathy)2. เด็กมีระดับพัฒนาการช้าจริงหรือไม่ อย่างไร อยู่ในระดับไหน3. มีข้อบ่งชี้ว่าจะมีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่4. สาเหตุของความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร5. ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างไร2. การตรวจร่างกายการตรวจร่างกายที่สำคัญและอาจสัมพันธ์กับความบกพร่องทางพัฒนาการ ได้แก่2.1 ตรวจร่างกายทั่วๆไปทุกระบบ2.2  ภาวะตับม้ามโต2.3 ผิวหนัง เช่น cutaneous markers
 2.4 ระบบประสาทต่างๆ2.5 ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม (child abuse)
2.6 ระบบการมองเห็นและการได้ยินเพราะเป็นความพิการซ้ำซ้อนที่พบร่วมได้บ่อย


วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 11


** ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 10


นำเสนอประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ  

กลุ่มที่1    สมองพิการ C.P
กลุ่มที่2    เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ L.D.
กลุ่มที่3    เด็กที่มีสมาธิสั้นและความผิดปกติ