บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 4
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
ความหมาย
บุคคลที่มีอารมณ์และพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปจากปกติเป็นอย่างมาก และปัญหาทางพฤติกรรมนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่เป็นที่ยอมรับทางสังคมส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็กและผู้อื่น เป็นผลมาจากความขัดแย้งของเด็กกับสภาพแวดล้อม หรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตัวเด็กเองขาดสัมพันธภาพกับเพื่อนหรือผู้อื่น ความเก็บกดทางอารมณ์จะแสดงออกทางร่างกาย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มความประพฤติผิดปกติ มีลักษณะก้าวร้าว ทำร้ายผู้อื่น ต่อต้าน เสียงดัง พูดหยาบคายกลุ่มบุคคลผิดปกติ ชอบเก็บตัว ขาดความมั่นใจ กัดเล็บ เงียบเฉย ไม่พูด มองโลกในแง่ร้าย กลุ่มขาดวุฒิภาวะ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับวัย สมาธิ ไม่สนใจสิ่งรอบตัว งุ่มง่าม เฉื่อยชา สกปรก ขาดความรับผิดชอบ กลุ่มที่มีปัญหาทางสังคม ชอบหนีโรงเรียน หนีออกจากบ้าน คบเพื่อนไม่ดี ต่อต้านผู้มีอำนาจ ชอบเที่ยวกลางคืน
1. สภาพทางชีววิทยา หมายถึง พันธุกรรม ระบบประสาท ภาวะโภชนาการและโรคภัย ไข้เจ็บบางชนิด
2. สภาพทางครอบครัว ที่มีความขัดแย้งรุนแรง มีสัมพันธภาพในเชิงลบ การขาดการเอาใจใส่ ขาดความอบอุ่น
3. สภาพพลวัตของโลกาภิวัตน์ ความสับสนในการดำเนินชีวิตในสังคม ความสับสนในวัฒนธรรม ความเติบโตทางวัตถุนิยมอย่างรวดเร็วและรุนแรง ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับ
สังคมได้
สังคมได้
ลักษณะบางอย่างที่พอสังเกตได้
1. เก็บตัว หมกมุ่น เหม่อลอย
2. วิตกกังวล ลุกลี้ลุกลน
3. ไม่มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบข้าง ถอยหนีสังคม
4. ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก้าวร้าว ก่อกวน ข่มขู่ ทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตัวเอง
5. ขาดความรับผิดชอบ ไม่เคารพยำเกรงผู้อื่น
6. มีนิสัยลักขโมย ฝ่าฝืนกติกา ต่อต้านสังคม
7. หนีเรียนเป็นประจำ
8. อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อที่จะไม่ทำกิจกรรมใด ๆ
2. วิตกกังวล ลุกลี้ลุกลน
3. ไม่มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบข้าง ถอยหนีสังคม
4. ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก้าวร้าว ก่อกวน ข่มขู่ ทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายตัวเอง
5. ขาดความรับผิดชอบ ไม่เคารพยำเกรงผู้อื่น
6. มีนิสัยลักขโมย ฝ่าฝืนกติกา ต่อต้านสังคม
7. หนีเรียนเป็นประจำ
8. อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อที่จะไม่ทำกิจกรรมใด ๆ
เทคนิคการสอนเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
กำหนดกฎเกณฑ์ ระเบียบตลอดจนกิจวัตรประจำวันในห้องเรียนให้เป็นระบบให้ชัดเจน ซึ่งควรมีความสัมพันธ์กับความสำเร็จในการทำงานครูกำหนดกฎ ระเบียบของห้องเรียน ควรกระทำตอนต้นภาคเรียนและชี้แจงให้นักเรียนทุกคนเข้าใจตรงกันและปฏิบัติตาม ถ้ามีนักเรียนบางคนไม่เข้าใจกฎ ระเบียบ ให้ครูเลือกเด็กคนใดคนหนึ่งเป็นแบบอย่างให้นักเรียนที่ไม่เข้าใจ ปฏิบัติตามแบบอย่างจนกว่าเด็กจะเข้าใจ ครูคอยตรวจสอบว่านักเรียนปฏิบัติตามกฎ ระเบียบหรือไม่และให้แรงเสริมทางบวก เมื่อนักเรียนปฏิบัติตามกฎ หากนักเรียนทำแบบฝึกหัดหรือทำการบ้านไม่ได้ ครูอาจเลือกใช้วิธีอื่น ถ้านักเรียนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับครูหรือเพื่อน ครูควรวิเคราะห์พฤติกรรมของเด็กก่อนแล้วจึงพิจารณาดำเนินการต่อไป ถ้านักเรียนทะเลาะวิวาทหรือชกต่อยกัน ครูจะต้องจับเด็กแยกออกจากกันทันที หลังจากนั้นครูอาจให้นักเรียนศึกษาแบบอย่างพฤติกรรมที่ถูกต้องจากเด็กอื่นๆแล้ว ให้ปฏิบัติตามแบบอย่างนั้นๆ ถ้าเด็กปรับตัวในทางถดถอย ชอบอยู่คนเดียว ไม่ร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ครูอาจสั่งให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมหรือส่งเด็กไปให้ครูแนะแนวหรืออาจให้เพื่อนนักเรียน ในห้องเดียวกันเขียนส่วนดีของเด็กคนนั้นลงในกระดาษ แล้วให้นักเรียนอ่านข้อความนั้นให้นักเรียนทั้งห้องฟังเพื่อให้เด็กรู้สึกชื่นชมตนเองและมีแรงในภายในที่จะพัฒนาตนเองต่อไป ครูควรนำวิธีปรับพฤติกรรมมาใช้อย่างเป็นระบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น